ปกติแล้ววอลเปเปอร์จะไม่เกิดราหากไม่มีช่องที่ความชื้นเข้าถึงได้ แต่หากว่าวอลเปเปอร์เกิดขึ้นราแล้ว (ซึ่งอาจเกิดจากความเก่าของบ้านและเกิดรอยรั่วในขณะที่อยู่) จะแก้ไขอย่างไรจึงจะอยู่ได้นาน วันนี้เรามาดูกันนะครับ
- ปิดช่องปัญหาก่อน – หากว่าวอลเปเปอร์ขึ้นรา จะต้องมีช่องทางด้านหลังที่ความชื้นหรือน้ำสามารถซึมผ่านได้ เรื่องนี้อาจเกิดความผิดพลาดตอนตรวจบ้านหรืออาจเป็นเพราะบ้านเก่าแล้วก็เป็นได้ แต่จะด้วยเหตุผลใดๆก็ตาม ให้ลองดูรอบๆและฉาบปิดไปก่อน อาจต้องมีการลอกวอลเปเปอร์บางส่วนออกเพื่อหาช่องปัญหา
- ให้ลอกวอลเปเปอร์ออกให้หมด – ขั้นตอนนี้ต้องลองออกจนเห็นผนังปูนครับ โดยใช้การลอกด้วยน้ำ หลายๆครั้งวอลเปเปอร์ก็อาจจะเก่าแล้ว ดังนั้นหากลอกออกแค่ชั้นเดียวก็อาจทำให้ไม่เกลี้ยง จะเกิดปัญหาซ้ำได้
- ให้ทายาฆ่าเชื้อราให้ทั่วพื้นที่ – ใช้ยาฆ่าเชื้อราและตะใคร้น้ำที่เรียกว่า microkill หากว่าพื้นที่เสียหายไม่เยอะใช้แบบ 1 ลิตรก็เพียงพอ ซึ่งปกติดูแล้วการเกิดราคงไม่ได้เกิน 1 ผนังหรอกครับ นอกจากเป็นเคสพิเศษที่ปล่อยรามมาเรื่อยๆและไม่ได้แก้ไขเป็นเวลานาน
- ใช้สีโป๊วผนังทาทับไป – หลังทายาฆ่าเชื้อแล้ว รอให้แห่งสัก 10 นาทีและค่อยทาสีโป๊วผนังทับไป แน่นอนว่าผนังที่มีปัญหาส่วนใหญ่จะเป็นผนังเก่าและเกิดความขรุขระได้ จึงควรให้สีทาทับให้เกิดความสม่ำเสมอ อย่าลืมรอให้สีโป๊วแห้งด้วยนะครับ ไม่งั้นขั้นตอนถัดไปจะไม่ราบรื่น
- ติดวอลเปเปอร์ใหม่ทับอีกที – คราวนี้ก็สามารถใช้วอลเปเปอร์ใหม่ติดทับได้เลย บางคนก็มีวอลเก่าอยู่แต่บางคนก็อาจอยากเปลี่ยนลาย อันนี้แล้วแต่ชอบเลยนะครับ หากไม่อยากเปลี่ยนทั้งแผงก็สามารถใช้เทคนิคเรียงวอลเป็นโซนให้ตัดกันพอดีๆได้ครับ
ขออบคุณรีวิวจากลูกค้า ศ.ดร.มณีวรรณ ฉัตรอุทัย ที่ให้ความไว้วางใจร้าน ดูแลนะครับ
