
ไรฝุ่น (dust mite) มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Dermatophagoides pteronyssinus Dermatophagoides fariae เป็นสิ่งมีชีวิตที่มีขนาดเล็ก จนไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า เพราะมีความยาวเพียง 250 – 300 ไมครอน ไรฝุ่นเป็นสัตว์จำพวกแมลง แต่มีลักษณะที่คล้ายกับเห็บ หมัด แมงมุม และมีขา 8 ขา ไม่มีตา
มักพบตัวไรฝุ่นได้ ในที่ที่มีคน และสัตว์ มีอุณหภูมิความชื้นพอเหมาะที่ระดับ 60 % และมีความอุ่น โดยจะปะปนอยู่กับฝุ่นละออง ซึ่งสถานที่ที่ตัวไรฝุ่นชอบอยู่คือ ที่นอน เฟอร์นิเจอร์ทำจากวัสดุเส้นใยผ้า พรมปูห้อง พรมปูพื้น ผ้านวม หมอน ผ้าม่าน ตุ๊กตาของเล่นที่ทำจากผ้า และทุกอย่างที่มีเส้นใยผ้ามาเกี่ยวข้องด้วย โดยเฉลี่ยแล้วเตียงนอน 1 เตียง ตัวไรฝุ่นสามารถอาศัยอยู่ได้หลายล้านตัว
ตัวไรฝุ่นกินพวกใยผ้าและขนสัตว์เป็นอาหาร นอกจากนี้ยังกินเซลล์ผิวหนังของคนและสัตว์เลี้ยงที่หลุดลอก โดยผิวหนังของคน เฉลี่ยแล้วจะหลุดลอกประมาณวันละ 1.5 กรัม
มีรายงานจากทั่วโลกว่า ตัวไรฝุ่นเป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายอยู่จำนวน 13 สายพันธุ์ มีชีวิต ตัวเมียจะวางไข่วันละ 60-100 ฟอง ระยะฟังตัว 8-12 วัน แต่ละตัวมีอายุประมาณ 30 วัน ในช่วงฤดูหนาวตัวไรฝุ่นจะเหลือน้อยมาก แต่จะมีจำนวนเพิ่มมากที่สุด ในสภาพอากาศร้อนชื้น ช่วงฤดูร้อน
วิธีที่จะลดจำนวนไรฝุ่นภายในบ้าน
- ซักผ้าปูที่นอน และปลอกหมอน ด้วยน้ำร้อน 55-60 องศาเซลเซียส ทุก 1- 2 สัปดาห์จากนั้นนำที่นอน หมอนและพรม ตากแดดจัดๆประมาณ 3 ชั่วโมงขึ้นไป จะช่วยฆ่าตัวไรฝุ่นได้
- มีการระบายอากาศในห้องนอนเพื่อลดความชื้น อย่างน้อยควรเปิดประตูหน้าต่างห้องนอนวันละ 1 ชั่วโมง ดีกว่าปิดห้องไว้ตลอดเวลา
- ทำความสะอาดบ้านและห้องนอนด้วยผ้าชุบน้ำหมาดๆ และใช้เครื่องดูดฝุ่นที่มีคุณภาพดี
- ไม่ควรนำสัตว์เลี้ยงเข้าไปในห้องนอน เพราะรังแคจากสัตว์เลี้ยงเป็นอาหารที่ดีของไรฝุ่น
- ไม่ควรปูพรม และใช้เฟอร์นิเจอร์ที่หุ้มด้วยผ้า ในกรณีที่อยากติดผ้าม่านในห้องนอน ควรใช้ผ้าม่านที่กันไรฝุ่น
ตัวไรฝุ่นสามารถทำให้เกิดปฏิกิริยากระตุ้นภูมิแพ้ ทำให้มีอาการจามอย่างหนัก คันตามผิวหนัง น้ำตาไหล ไอ เวียนศีรษะ หมดแรง หายใจไม่สะดวก และมีปัญหาระบบย่อยอาหาร เมื่อเปรียบแล้วตัวไรฝุ่นก็เหมือนกับสัตว์ที่เป็นพาหะของโรค ดังนั้นจึงไม่ควรนิ่งนอนใจ